Travel Japan 2015 ::: ไปเมืองหลวงเก่าเกียวโตเที่ยวป่าไผ่ ” อาราชิยาม่า ” ในวันฝนพรำ :::
Travel Japan 2015 : Day 11 ไปเมืองหลวงเก่าเกียวโตเที่ยวป่าไผ่ “อาราชิยาม่า” ในวันฝนพรำ
ติดตามอ่านบทนำ ข้อมูลก่อนเดินทางทริปนี้ได้ที่นี้
+
ติดตามเรื่องราวการเดินทางได้ที่นี้
+ ตอนที่ 01 : วันแรกของการเดินทาง ::: ” ฟุกุโอกะ ” เมืองที่ถูกจัดอันดับว่าเป็นเมืองน่าอยู่อันดับที่ 12 ของโลก :::
+ ตอนที่ 02 : วันที่สองของการเดินทาง ::: เที่ยวเมือง Yufuin และนั่งรถไฟขบวนสุดฮิต Yufuin No Mori :::
+ ตอนที่ 03 : วันที่สามของการเดินทาง ::: เที่ยวปราสาทคุมาโมโตะ ตามรอยละครตามหา ศาลเจ้ากลกิโมโน :::
+ ตอนที่ 04 : วันที่สี่ของการเดินทาง ::: เดินทางไปหาเสาโทโรอิกลางน้ำ ที่ฮิโรชิมา ปิดท้ายที่ย่าน Sakae :::
+ ตอนที่ 05 : วันที่ห้าของการเดินทาง ::: พาไปจังหวัด ” ชิงะ ” เที่ยว 2 เมืองรอบทะเลสาบบิวะ :::
+ ตอนที่ 06 : วันที่หกของการเดินทาง ::: ฝนตกทั้งวันเที่ยวเมือง คามาคุระ และตอนเย็นที่โยโกฮาม่า :::
+ ตอนที่ 07 : วันที่เจ็ดของการเดินทาง ::: พาเที่ยวเมืองหลวงของญี่ปุ่น ” โตเกียว ” ออกตามหา Gundam :::
+ ตอนที่ 08 : วันที่แปดของการเดินทาง ::: เที่ยวนากาโน่ ต้องลองไปรู้จักแล้วจะหลงรักเมืองนี้ :::
+ ตอนที่ 09 : วันที่เก้าของการเดินทาง ::: เที่ยวจังหวัดมิเอะ พาไปยังศาลเจ้าอิเสะ Ise Jingu :::
+ ตอนที่ 10 : วันที่สิบของการเดินทาง ::: พาเที่ยวมรดกโลกปราสาทฮิเมะจิ ปิดท้ายค่ำคืนที่ Osaka Bay :::
+ ตอนที่ 11 : วันสุดท้ายของการเดินทาง ::: ไปเมืองหลวงเก่าเกียวโตเที่ยวป่าไผ่ ” อาราชิยาม่า ” ในวันฝนพรำ ::: < กำลังอ่านอยู่บทความนี้ >
Day 11 วันที่ 6 ก.ค. 2558 วันนี้เป็นวันที่ 11 และวันสุดท้ายของการเดินทางเที่ยวในญี่ปุ่นของทริปปี 2015 วันนี้จะไปพาไปยังจังหวัดเมืองเกียวโต ( Kyoto ) เมืองหลวงเก่าซึ่งสถานที่นี้เคยมากับทัวร์แล้วตอนนานมาแล้ว แต่มาเองเที่ยวนี้มีที่นึงที่ยังไม่ได้ไปนั้นคือเขต Western Kyoto คือโซน อาราชิยาม่า ( Arashiyama ) จะพาไปเดินยังป่าไผ่และวัด Tenryuji Temple และไปยังสะพานเก่าแก่อย่าง Togetsukyo Bridge ก่อนเดินทางมาเก็บตกช่วงบ่ายย่านสถานีโอซาก้า ( Osaka ) ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย ติดตามการเดินทางวันสุดท้ายนี้ได้เลยครับ
วันนี้มีผมกับพี่อีกคนที่มากันตั้งแต่วันแรกที่บัตร JR Pass แบบทั่วประเทศ 7 วันหมดแล้ว เราจึงไปเปิดบัตรอีกใบนั้นคือ JR Kansai Area Pass แบบ 1 วัน ซึ่งบัตรใบนี้เป็นของ JR West ซึ่งมันเพียงพอกับการใช้งานในวันนี้ในราคา 2,200 เยน ซึ่งเราโปรแกรมวันนี้มีไปเกียวโต ( Kyoto ) และกลับมายังเก็บตกที่เมืองโอซาก้า ( Osaka ) ก่อนไปยังสถานบินคันไซ ( Kansai International Airport ) ซึ่งที่จะไปนี้มันมีรถไฟที่เป็นขบวน Ltd วิ่งอยู่ขบวนนึงนั้นคือ Ltd.Express HARUKA ซึ่งมันไปถึงสนามบินคันไซได้ด้วย ซึ่งนับแล้วว่ามันคุ้มมากในราคา 2,200 เยน ผมเลยซื้อและเปิดใช้กับพี่อีกคน ส่วนคนอื่นบัตร JR Pass ยังไม่หมดก็ใช้ได้ต่อไป
วันนี้ออกกันประมาณ 8 โมงเพราะต้อง Check Out โรงแรมแล้วฝากของไว้ที่โรงแรมก่อนหลังจากนั้นก็นั่งรถไฟมายังสถานี SHIN-OSAKA วันนี้วันจันทร์คนเยอะมากที่สถานี SHIN-OSAKA
เราจะไปขึ้นขบวน Ltd.Express HARUKA ไปยังเกียวโต รอบนี้ไม่ได้จองที่นั่งเพราะบัตรผมกับพี่อีกคนเป็น JR Kansai Area Pass มันจองที่ไม่ได้ต้องขึ้นตู้ Non-reserved อย่างเดียว สถานี SHIN-OSAKA หาชานชาลาที่ 12
ก่อนขึ้นต้องเช็คให้ดีนะครับเพราะ Ltd.Express HARUKA มันจะมีขบวนที่วิ่งไปเกียวโต ( Kyoto ) กับอีกทางวิ่งไปยังสนามบินคันไซ ( Kansai International Airport ) ให้ดูตรงบอร์ดเอาว่าขบวนที่เข้ามาไปทางไหน อย่างในรูป Ltd.Express HARUKA 4 ตอน 8.39 น. จะไปยังเกียวโต ( Kyoto ) ส่วน Ltd.Express HARUKA 11 ตอน 8.46 มันวิ่งไปยังสนามบินคันไซ ( Kansai International Airport ) ดูดี ๆ ก่อนขึ้นนะครับ
มาก่อนเวลาก็นั่งรอรถไฟไปก่อน
มาแล้วเจ้า Ltd.Express HARUKA 4 วิ่งจากต้นทางสนามบินคันไซ ( Kansai International Airport ) และไปสุดที่สถานีเกียวโต ( Kyoto )
หน้าตา Ltd.Express HARUKA
ด้านในรถมีที่ให้วางกระเป๋าเดินทางแน่ละเพราะมันเป็นรถไฟที่วิ่งไปยังสนามบินนิหน่า
มีตู้ขายน้ำบนขบวนรถด้วยนะครับ หิวก็มากดเอา
ภายใน Ltd.Express HARUKA จัดเก้าอี้แบบ 2 – 2
เรานั่งจากสถานี SHIN-OSAKA ไปยังสถานี KYOTO ใช้เวลาเพียง 23 นาทีเท่านั้น
ป้ายไฟข้างตัวรถเขียนเลย Kansai Airport Express HARUKA
ขบวน Ltd.Express HARUKA ที่ผมมาจะจอดที่สถานี KYOTO เป็นสถานีสุดท้ายแล้วทำความสะอาดก่อนจะมุ่งหน้ากลับไปยังสนามบินคันไซ
พอถึงสถานีสุดท้ายจะมีเจ้าหน้าที่มาแขวนป้ายห้ามขึ้นเพื่อทำการตรวจเช็คภายในรถไฟและทำความสะอาดหมุนเก้าอี้กลับไปอีกทาง ก่อนจะให้ผู้โดยสารขึ้นไป
ชานชาลาที่จอด Ltd.Express HARUKA ตรงข้ามจะเป็นงานศิลป์ที่ใช้กระเบื้องมาทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองเกียวโต ( Kyoto ) ทำสวยดีหยุดถ่ายรูปกันตรงนี้ก่อน
จอดอยู่ชานชาลาใกล้ ๆ กันเป็นรถไฟรุ่นเก่า Ltd.Express Hashidate ขบวนนี้เป็นรถไฟรุ่นเก่ามากแต่มองแล้วการดูแลรักษาเขาดีจีริง ๆ
มันบังเอิญไปหรือเปล่าว่าชานชาลาที่จอด Ltd.Express HARUKA มันอยู่ติดกับชานชาลาที่เราจะไป อาราชิยาม่า เลยเดินไม่ไกลเลย ถ้ามา SHINKANSEN มีหวังเดินไกล
รถมาเราก็ขึ้นเลยขึ้นขบวน JR Sagano Line เพื่อไปยังสถานี SAGAARASHIYAMA
นั่งรถไฟไปประมาณ 20 นาทีก็ถึงแล้วสถานี JR SAGA-ARASHIYAMA
คนมาเที่ยวกันเยอะเหมือนกันนะครับขนาดวันจันทร์ มีแต่ชาวต่างชาติทั้งนั้น
ทางออกก็จะมีให้ออก 2 ทางส่วนผมจะไปป่าไผ่ ( Bamboo Groves ) กับวัดเท็นริวจิ ( Tenryuji Temple ) ออกซ้ายโลด
ทางซ้ายมือในรูปคือสถานี Sagano Torokko Station ที่เห็นคนยืนรอกันอยู่นั้นเพื่อขึ้นรถไฟสายโรแมนติก Sagano Scenic Railway ถ้าจะมาให้สวยต้องมาช่วงใบไม้แดงรับรองนั่งสาย Sagano จะเห็นวิวสวย ๆ ข้างทาง
ด้านหน้าของทางสถานี JR SAGA-ARASHIYAMA ที่เราออกมาทางที่จะไปป่าไผ่ ( Bamboo Groves ) กับวัดเท็นริวจิ ( Tenryuji Temple )
ทางขวามือของสถานี JR SAGA-ARASHIYAMA ก็จะเห็นหัวรถจักรรุ่นเก่าจอดอยู่และตรงนั้นคือสถานี Sagano Torokko Station
ออกมาจากสถานี JR SAGA-ARASHIYAMA เห็นสถานี Sagano Torokko Station อยู่ขวามือจะมีซอยเล็ก ๆ เดิน ผมเดินทางซอยนั้นละครับ มีคนเดินไปหลายคนไม่ต้องกลัวหลง
เดินตามซอยที่ผมเข้าไปนิดเดียวจะมีร้านให้เช่าจักรยานไว้ปั่นก็ได้มีทั้งแบบปั่นเอง และแบบจักรยานไฟฟ้าให้เช่า ใครไม่อยากเดินก็เช่าจักรยานปั่นได้ครับ
ส่วนอัตราค่าเช่าจำไม่ได้ว่าจักรยานปั่นเองเช่าทั้งวัน เท่าไหร่จำราคาไม่ได้ ใครอ่านภาษาญี่ปุ่นออกก็ดูที่ภาพเลยจะมีราคาบอกอยู่
เดินผ่านร้านเช่าจักรยานมาทางขวามือจะเจอเหมือนศาลเจ้าเล็ก ๆ ตั้งอยู่เราก็เดินตรงต่อไป
เดินในซอยจนออกมาชนถนนใหญ่ด้านขวามือจะเป็นร้าน Black Paint ก็เลี้ยวซ้ายเลยแล้วเดินตามถนนใหญ่ไปเลยข้างหน้านั้นละครับจะไปอาราชิยาม่า ( Arashiyama )
เลี้ยวซ้ายมาก็เดินตามทางสองข้างทางจะมีร้านอาหารให้เลือกมากมายแต่ตอนเราไปยังเช้าอยู่ยังไม่ค่อยมีร้านไหนเปิด ส่วนใหญ่ร้านขายไอศครีมจะเปิดกันแต่เช้า
ที่นี้เวลาซื้อไอศครีมทาน เขาจะมีที่ให้นั่งทานหน้าร้านเลย เพื่อไม่ให้ออกไปสกปรกตามท้องถนน
แถวนี้ต้องบอกว่านักท่องเที่ยวเยอะมาก ดีว่าวันนี้วันจันทร์เหมือนคนไม่เยอะเท่าวันเสาร์ อาทิตย์
เดินมาจนเจอทางขวามือจะมีป้ายเขียนว่า Tenryuji Temple กับสวน Sogenchi Garden จะมีทางเดินเข้าไปข้างในเดินไปอีกพอสมควร
เดินเข้ามาเราจะเจอสระบัวขนาดใหญ่ก่อน แล้วก็เดินตรงเข้าไปเลย
เดินตรงไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอแล้วครับ วัดเท็นริวจิ ( Tenryuji Temple )
วัดเท็นริวจิ ( Tenryuji Temple ) เป็นวัดที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในเขตอาราชิยาม่าของเกียวโต เป็นอันดับ 1 จาก 5 อันดับสูงสุดของวัดเซนและยังได้ถูกบันทึกเป็นมรกดโลก
วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1339 ท่านโชกุนอาชิคากะ ทาคาอุจิ เพื่ออุทิศให้กับจักรพรรดิ โก-ไดโกะ ผู้ได้เสด็จสวรรคตล่วงลับไปแล้ว
เข้าไปด้านในเสียค่าเข้าชมก่อนนะครับ ค่าเข้า 500 เยน เปิดตั้งแต่ 8.30 น. ถึง 17.30 น.
สวนแบบเซน อยู่ทางด้านหน้าของ Main Hall
ในวัดเทนริวจิมีสวนสไตล์เซนที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นซึ่งออกแบบโดยมุโซ โซเซกิ ( Muso Soseki ) เจ้าอาวาสองค์แรกของวัดผู้มีความสามารถในการออกแบบจนเป็นที่ยอมรับ
บริเวณสวนตรงนี้เรียกว่า Sogen Garden
ทางขวามือจะเป็นอาคาร Shoin Drawing Room
สวนที่นี้ต้องบอกว่าสวยจริง ๆ ถ้ามาตอนใบไม้เปลี่ยนสีไม่รู้ว่าจะสวยขนาดไหน
เดินออกมาทางด้านหลังสวนก็จะเจออีกอาคาร คืออาคาร Tahoden
เดินมาเรื่อย ๆ ทางด้านหลังก็จะเริ่มเห็นแนวของป่าไผ่แล้ว ที่นี้เขียวดีจริง ๆ เดินสบายวันนี้แดดไม่มี
ออกทางออกด้านหลังมันจะเป็นทาง North Entrance ป่าไผ่ ( Bamboo Groves ) เราจะอยู่ทางซ้ายมือนะครับ
<
ทางเข้าป่าไผ่ ( Bamboo Groves ) หาไม่อยากหรอกครับคนยืนถ่ายรูปกันเยอะดูก็รู้เลยว่าตรงนี้ใช่แน่นอน
ผมไม่ได้เดินออกไปทะลุอีกทางนะครับ พอดีเห็นฟ้ามันเริ่มมืดประมาณเดียวฝนจะตกแน่อีกอย่างตอนนี้เที่ยงแล้วยังไม่ได้กินข้าวก็เลยเดินกลับมาอีกทางเพื่อออกไปยังทางถนนใหญ่
จากทางออก North Entrance ออกกลับไปถนนใหญ่ก็แค่ออกมาแล้วเลี้ยวขวาเดินไปทางนั้นก็จะออกถนนใหญ่ได้
ทางเดินออกมาจะเจอสามแยกทางไปทางซ้ายมือจะเจอ Nonomiya Jinja เป็นศาลชินโต
สมัยโบราณเป็นที่ ๆ เจ้าหญิงในราชวงค์ มาอยู่เป็นนักบวชหญิงที่นี่ 1 ปี ก่อนที่จะส่งให้ไปเป็นหัวหน้านักบวชหญิงที่ศาลเจ้า Ise ที่ห่างไกล และจะต้องอยู่ที่ Ise จนกว่า จักรพรรดิของรัชสมัยนั้นจะสละราชย์ หรือ สิ้นพระชนม์
เดินกลับไปตรงสามแยกที่เราเลี้ยวซ้ายมา เราก็เดินตรงไปเลยหรือถ้ามาจากสามแยกก็เลี้ยวขวาก็จะกลับไปทางออกถนนใหญ่
ออกมาถึงถนนใหญ่พอดีกับฝนเริ่มตก แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวนั่งรถลากเข้าไปยังป่าไผ่ ( Bamboo Groves ) กันอย่างต่อเนื่อง
ตอนนี้เที่ยงกว่าแล้วร้านอาหารเปิดกันแล้วครับ เราก็เลยออกมาหาอะไรทานตรงร้านที่อยู่ตามริมถนนแต่ละร้านอาหารน่าทานทั้งนั้น
มาลองกินข้าวหน้ากุ้งเทมปุระดู ราคาไม่แพงครับ 900 เยน
อิ่มแล้วตั้งใจจะเดินต่อแต่ออกมานอกร้านฝนเริ่มจะตกหนักขึ้นเลยตั้งใจว่าไปตรงแค่สะพานโทเง็ตสึเคียว ( Togetsukyo Bridge ) แล้วก็จะกลับ
ดูแล้วน่าจะเป็นนักท่องเที่ยวเช่าชุดกิโมโนมาใส่เดินเล่นมากกว่า เดาเอานะครับ
เดินมาไม่ไกลก็ถึงแล้วสะพานโทเง็ตสึเคียว ( Togetsukyo Bridge ) เป็นเสมือนสัญลักษ์ของอาราชิยาม่า ถูกสร้างขึ้นในสมัยเฮอัน
สะพานโทเง็ตสึเคียว ( Togetsukyo Bridge ) ซึ่งทอดยาวข้ามแม่นํ้าโฮสุโดยมีภูเขาอาราชิยามาเป็นฉากหลัง ถ้าเดินข้ามฝั่งไปทางด้านทิศใต้จะมี สวนลิงอาราชิยามะ และวัดโฮรินจิ ( Hōrin-ji )
แม่นํ้าโฮสุกับวันที่ฝนกตก ถ้ามาในช่วงหน้าซากุระริมสองฝั่งจะเต็มไปด้วยดอกซากุระ
ถึงเวลาที่เราต้องไปจากตรงนี้แล้วเพราะบ่าย 2 แล้วจะกลับไปซื้อของต่อที่โอซาก้า ( Osaka ) อีกนิดหน่อยก่อนกลับบ้านในคืนนี้
ขากลับแวะเข้าไปในสถานี Sagano Torokko Station จริง ๆ ตั้งใจจะไปเข้าห้องน้ำ ^^
ฝนตกบวกกับไม่ใช่ช่วงท่องเที่ยวเท่าไหร่ คนเลยไม่ค่อยมีมาขึ้นรถไฟสายโรแมนติก Sagano Scenic Railway ล่องซื้อตั๋วนี้ว่างเลย
ดูตามบอร์ดที่ขึ้นเวลาเหมือนมีรถไฟสายโรแมนติก Sagano Scenic Railway ออกทุก ๆ 1 ชั่วโมง
เข้าไปสถานี SAGAARASHIYAMA กลับไปยังสถานี KYOTO ไปขึ้นยังชานชาลาหมายเลข 1
มาสถานีได้เวลาดีมาก ๆ ลงมาชานชาลารถไฟสาย JR Sagano Line กำลังจะเข้ามาไม่ต้องรอนานโดดขึ้นรถไฟได้เลย
นั่งมา 16 นาทีก็มาถึงสถานี KYOTO เมื่อเช้ามาทางไหนก็เดินกลับไปยังชานชาลานั้นเพราะต้องนั่ง Ltd.Express HARUKA กลับโอซาก้า ( Osaka )
มายืนรอเขาทำงานความสะอาดก่อน ถึงจะขึ้นได้นะครับ
จากสถานี KYOTO ใช้เวลา 30 นาทีก็มาถึงสถานี SHIN-OSAKA ระหว่างลงสังเกตุเห็นคนใช้บริการไปยังสนามบินคันไซที่ขึ้นรถก็เยอะนะครับในช่วงบ่าย
ผมก็นั่งรถไฟจากสถานี SHIN-OSAKA ไปยังสถานี OSAKA จะไปเดินซื้อของเก็บตกแถวย่าน Osaka Station City
นั่งรถไฟสาย JR Special Rapid Service เพียง 4 นาที ก็มาถึงยังสถานี OSAKA
ก่อนเดินซื้อของก็มายังห้าง HEP เพื่อมาขึ้นกระเช้าแดง HEP FIVE
ด้านบนของห้าง HEP เป็นกระจกมองมาฝั่งตรงข้ามจะเห็นระบบรางรถไฟของสถานี OSAKA ระบบขนส่งด้วยรางของญี่ปุ่นนี้สุดยอดจริง ๆ
เดินขึ้นมาชั้นบนสุดเลยครับแล้วเราจะเห็นกระเช้าสีแดงของ HEP FIVE
ไม่ต้องซื้อตั๋วเพราะเราใช้บัตร Osaka Amazing Pass ขึ้นฟรีได้เลย
ส่งบัตร Osaka Amazing Pass ให้เจ้าหน้าที่แล้วเขาจะยิง Barcode แล้วก็ให้ตัวจริงเรามาอีกใบ
ได้บัตรแล้วก็เข้าไปด้านในได้เลย ไปขึ้นกระเช้ากันครับ
ฝนยังไม่หยุดตกเลย แต่ตกไม่หนักมากยังพอมองเห็นวิวด้านนอกได้บ้าง
ด้านในกระเช้ามีสติ๊กเกอร์แปะให้ดูด้วยว่าแต่ละฝั่งมีอะไรบ้างและตึกแต่ละตึกมันชื่ออะไร
ลงจากกระเช้ามากำลังเินข้ามถนนไปยังตึก Yodobashi Umeda ก็เห็นชาวญี่ปุ่นยังนิยมแต่งชุดกิโมโนมาเดินกันเยอะทั้งในที่ในเมืองใหญ่อย่างโอซาก้า
ใครไปญี่ปุ่นก็คงไม่พลาดที่จะเข้าไปซื้อของยังห้างนี้แน่นอน Yodobashi
ได้ของที่ต้องการครบแล้วก็เตรียมกลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรมแล้วค่อยไปสนามบิน ก็จากตรงนั้นเดินไปขึ้นสถานี UMEDA(SUBWAY) ขึ้นสาย Midosuji Line ไปสถานี NISHINAKAJIMAMINAMIGATA
กลับมาถึงโรงแรมก็แพคของใส่กระเป๋า ล้างหน้าล้างตาเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนเดินทางไปยังสนามบิน จากหน้าโรงแรมผมก็เรียก Taxi เลยครับ ไปยังสถานี SHIN-OSAKA ค่ารถประมาณ 700 เยน นั่งไปไม่ถึง 10 นาที
ถึงสถานี SHIN-OSAKA ก็ไปขึ้นรถไฟ Ltd.Express HARUKA เหมือนในตอนเช้าเลย
ขึ้น Ltd.Express HARUKA ไปชานชาลาที่ 11 แล้วก็ดูป้ายว่าขบวนที่กำลังเข้ามันไปไหน เย็นนี้เราจะไปสนามบินก็ดูป้ายที่เขียนว่าไปสนามบินคันไซ ( Kansai International Airport )
ผมขึ้นรถไฟจากสถานี SHIN-OSAKA รอบขบวน 20:15 น. ไปถึงสถานี KANSAI AIRPORT ตอนเวลา 21:11 น. ซึ่งไปถึงแล้วเคาเตอร์ Airasia ยังไม่เปิดเลย
ออกจากสถานี KANSAI AIRPORT ก็ออกมายังทาง Terminal 1 แล้วเดินขึ้นไปชั้นบนสุดเลย สำหรับใครกลับสายการบิน Airasia นะครับ
ประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง เคาเตอร์ของ Airasia ก็เปิดให้ทำการ Check in แต่ต้องบอกว่าที่นี้น้ำหนักต้องเป๊ะมากและขึ้นเครื่องได้ขนาดไหนก็ตามกฎที่เขียนไว้ที่นี้เอาจริงนะครับ Check in เรียบร้อยก็ไปนั่งรอเครื่องบินที่จะกลับบ้านแล้ว ออกมาจากบ้าน 11 วันสำหรับทริปการเดินทางในครั้งนี้ของผม Japan 2015
Final ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านเรื่องราวของผมในตอนแรกในการเดินทางไปยังญี่ปุ่นนะครับ ผิดถูกยังไงก็ขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วยแล้วกัน ชอบเรื่องราวการเดินทางของผมคิดว่ามีประโยชน์กับการเดินทางของท่านก็ฝากกด Like กด Share หรือบอกต่อ ๆ กันไป หวังว่าเรื่องราวการเดินทางของทางเราจะมีประโยชน์นะครับ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ E Mail : Mydesignclub@yahoo.com นะครับ
Travel Japan 2015
- Travel Japan 2015 : Day 1
- Travel Japan 2015 : Day 2
- Travel Japan 2015 : Day 3
- Travel Japan 2015 : Day 4
- Travel Japan 2015 : Day 5
- Travel Japan 2015 : Day 6
- Travel Japan 2015 : Day 7
- Travel Japan 2015 : Day 8
- Travel Japan 2015 : Day 9
- Travel Japan 2015 : Day 10
- Travel Japan 2015 : Day 11