Travel China 2014 ::: วันแรกของการเดินทาง Macau To Hong Kong ( มาเก๊า ถึง ฮ่องกง ) :::
Travel China 2014 : Day 1 วันเริ่มต้นของการเดินทาง
ติดตามอ่านบทนำ ข้อมูลก่อนเดินทางทริปนี้ได้ที่นี้
+ Travel China 2014 : Macau – Hong Kong – Guangzhou
กลับมาอีกครั้งกับทริปเดินขาลากจาก มาเก๊า ไปสิ้นสุดที่ กวางโจว ในเวลา 4 วัน เดินกันขาลากกันทีเดียวงานนี้ หลังจากจองตั๋วโปรโมชั้น Airasia ไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็ได้ถึงเวลาการเดินทางทริปนี้แล้ว วันในการเดินทาง คือ 19 – 22 มิ.ย. 2557 ที่ผ่านมานี้เอง
Day 1 เป็นวันแรกที่ออกเดินทางไปเที่ยวยัง มาเก๊า ฮ่องกง และจีนในเมืองเซินเจิ้นและกวางโจว เริ่มต้นเดินด้วยการจองตั๋วโปรโมชั่นของ Airasia ต้นทางจากกรุงเทพไปลงยังเกาะมาเก๊าประเทศจีน และขากลับจองจากเมืองกวางโจวกลับมายังประเทศไทย ส่วนในวันแรกของการเดินทางนี้เราเดินทางจากกรุงเทพไปยังมาเก๊าก่อนแล้วช่วงบ่ายจะนั่งเรือข้ามมายังเกาะฮ่องกง และพักที่ฮ่องกงหนึ่งคืน ด้วยครับ ติดตามการเดินทางครั้งนี้กันได้เลยครับ
เช้าวันเดินทางวันพฤหัสบดีที่ 19 มิ.ย. Flight บินไปมาเก๊าเราได้เช้าสุดเลยเครื่องออก 6.35 น. เราก็ต้องไปถึงสนามบินก่อน ตี 5 ตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวออกบ้าน ดีนะว่าบ้านใกล้ดอนเมืองเลยออกบ้านราว ๆ ตี 4 ครึ่ง ก็มาถึงสนามบินดอนเมืองประมาณตี 5 ซึ่งคนไม่เยอะเท่าไหร่ ทีมเราก็ทำการ Check in เตรียมตัวเดินทาง
วันนี้เราได้เป็น Bus Gate พอถึงเวลา 6 โมงกว่าก็เริ่มเรียกคนขึ้นรถไปยังหลุมจอดเตรียมตัวออกเดินทางปลายทางมาเก๊า
วันนี้ไม่เสียเวลาเท่าไหร่ พอถึงเวลา 6.35 เครื่องก็ไปเตรียม Take Off FD760 เตรียมนำเราจากท่าอากาศยานดอนเมือง ไปยัง ท่าอากาศยานมาเก๋า แต่วันนี้ฟ้าไม่สดใสเท่าไหร่ในช่วงเช้าเมฆมามืดเลย ซึ่งเราเช็คอากาศที่ มาเก๊า ฮ่องกง และกวางโจว แล้วก่อนเดินทาง ซึ่งหนีไม่พ้นที่จะต้องเจอฝนตก ^^!
ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชม. กว่า ก็ถึงเกาะมาเก๊า เขตปกครองพิเศษของจีนแล้ว
แล้วเราก็ถึงสนามบินนานาชาติมาเก๊า ซึ่งเวลาเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชม. ก็ถึงตอนประมาณ 10.20 น. โดยประมาณ มาถึงแดดดีเชียว
ตอนนี้การไปมาเก๊าเขาไม่แจกใบ ตม. ให้กรอกแล้วนะครับ ตอนเข้าไป ตม. เขาจะดูหน้าถ้าสงสัยก็ถามอะไรนิดหน่อยแล้ว Print ใบเล็ก ๆ นี้ออกมา ไม่มีการประทับตาลงใน Passport ด้วย ^^!
ลงเครื่องเสร็จก็ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองซึ่งใช้เวลาก็เสร็จครับ การเดินทางในมาเก๊านั้นง่าย ๆ เลยใช้รถบัสของคาสิโนก็ง่ายที่สุดแล้ว ออกมาจากสนามบินเลี้ยวขวาเดินตามทางก็จะมองเห็นจุดจอดรถบัสของคาสิโนจอดอยู่เยอะ เพียงแต่เราจะไปไหนเท่านั้น
แผนของเราคือเราจะไปฝากของที่ เวเนเชี่ยน แล้วค่อยเข้าไปยัง เซนาโต้ สแควร์ ฉะนั้นเราก็เลยใช้บริการรถฟรีของ เวเนเชี่ยน
เดียวนี้ในรถฟรีของ เวเนเชี่ยน มี Wifi ให้ใช้ฟรีด้วยนะครับ หลังจากเมื่อปี 2012 ตอนนั้นยังไม่มี
ลงรถที่ Main Lobby เดินตรงเข้าไปหาป้ายฝากกระเป๋าเลยครับเพื่อฝากของ มันจะอยู่ด้านซ้ายมือ
ตรงที่ฝากกระเป๋า ทีมผมไปกัน 6 คนก็ฝากรวมกัน 6 ใบเลยครับ บอกทางเจ้าหน้าที่ได้เลย เขาจะนับกระเป๋าแล้วออกใบรับใบเดียว แต่ก่อนเขาจะออกใบรับเขาจะถามว่าจะมารับตรงนี้หรือตรงอื่น ซึ่งเดียวเราจะไปขึ้นรถที่ท่าเรือ รถบัสฟรีจะจอดที่ West Lobby เราก็เลยแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าไปเอาที่ West Lobby เขาก็จะส่งกระเป๋าไปที่นั้นให้
ภายในด้านในของ เวเนเชี่ยน มุมที่ต้องมาถ่ายรูกันวันนี้คนไม่เยอะเท่าไหร่เพราะเป็นวันพฤหัส ถ้าศุกร์ – อาทิตย์ คนตรึม !! เราฝากกระเป๋าเสร็จก็ข้ามไปยัง City Of Dreams เพื่อไปขึ้นรถบัสฟรีไปยัง เซนาโด้ สแควร์ ไปกันเลย
เข้ามายัง City Of Dreams หาทางไปยังจุดจอดรถบัส ไม่รู้อะไรมาจิ้มที่จอเลยจะแสดงผังภายในทั้งหมด
มังกรหน้าห้อง The Bubble เราเดินเข้าไปจากประตูตรงนี้ทางไปยังรถบัส ต้องเดินไปยังด้านขวามือของเจ้ามังกร
เดินมาจนถึงหน้า Casino จะเจอป้าย Guest Service แล้วมีทางลง นั้นละครับทางไปท่าจอดรถลงไปเลย
ด้านล่างจะมีรถจอดไปส่งยังสถานที่ต่าง ๆ แต่เราตั้งใจจะไป เซนาโด้ สแควร์ รถบัสที่ไปใกล้สุดคือ รถที่ไปส่งยัง โรงแรม Sintra เดินหาป้ายแบบนี้แล้วต่อแถวรอขึ้นรถบัสกันเลยครับ
ตารางการเวลาและสถานที่ของรถบัสฟรีของ City Of Dreams
รถรอไม่นานครับ 10 นาทีก็มาแต่แถวคนจะเยอะมากเพราะเป็นสายที่เข้าเมือง เขาไม่ให้ยืนบนรถนะครับ ถ้าเต็มเขาก็จะไม่ให้ขึ้นเราต้องรอคันต่อไป จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจนับก่อนรถออกทุกครั้ง
นั่งรถไปไม่ถึง 15 นาทีเราก็ข้ามสะพานไปยังเกาะมาเก๊า เห็นคาสินโน Grand Lisboa อยู่ไกล ๆ
รถบัสฟรีของ City Of Dreams จะจอดด้านข้างของโรงแรม Sintra ก็เดินผ่านหน้าทางเข้าโรงแรม แล้วเลี้ยวซ้ายเดินตรงไปอย่างเดียวไม่ถึง 10 นาทีเราก็จะเห็น เซนาโด้ สแควร์ อยู่ด้านขวามือก็ข้ามถนนไปกันเลย
มาถึงตรงนี้ก็เที่ยงแล้ว หาไรกินก่อนดีกว่า ผมเลยพาเพื่อนไปกินร้านเดิมที่ผมเคยกินซึ่งจะง่ายในการสั่งมากเพราะแกพูดและฟังภาษาไทยได้ เป็นร้านขายข้าวหมูกรอบ หมูแดง ข้าวหน้าเป็ด อร่อยด้วยนะ จะทางเข้า เซนาโด้ สแควร์ เดินตรงไปเลี้ยวซ้ายซอยแรกเลย
พอเดินเข้ามาในซอยเดินตรงไปเลย แล้วไปเลี้ยวขวาเอาซอยที่ 3 ( ถ้าเดินตรงไปตัดกับถนนอีกเส้นที่รถวิ่งผ่านนั้นคือเลยซอย ) เดินเข้าซอยไปนิดเดียวก็จะเจอร้านแกแล้วอยู่ทางด้านซ้ายมือ จะเห็นเป็ด หมู ไก่ แขวนอยู่หน้าร้านมีร้านเดียวแถวนั้น
ลุงแกอยู่พอดี ชายชุดดำนั้นละครับ สั่งเลยอยากกินไรภาษาไทยลุงแกฟังรู้เรื่อง ง่ายมากในการสั่งอาหารในมื้อนี้ นึกว่าอยู่ในเมืองไทย
มาแล้วครับผมสั่งเป็ดกับหมูกรอบ ต้องบอกว่าหมูกรอบอร่อยจริง ๆ ข้าวยังเยอะเหมือนเดิมจานใหญ่มาก จานละ 31 MOB ( ค่าเงินมาเก๊า )
กินเสร็จจากซอนเดินไปต่อไปยัง ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล ( Ruins of St.Paul’s ) ที่อยู่ด้านในของ เซนาโด้ สแควร์ คนไม่เยอะเท่าไหร่เดินสบาย
แล้วเราก็ถึง ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล ( Ruins of St.Paul’s ) แต่ขอบอกตอนนี้แดดร้อนมากกกกกกกกก ยืนถ่ายแล้วต้องหาที่หลบแดด
ใช้เวลาถ่ายรูปตรงนี้กันสักพักก็ลาจากตรงนี้ละครับ เพราะตั้งใจมาถ่ายรูปมาซื้อของแถวนี้นิดหน่อย แล้วก็จะเดินทางไปฮ่องกงต่อ
นายแบบของเราทีมเราในทริปนี้ ฮาาาา เขาขอถ่ายหมดทุกสถานที่
เดินกลับไปขึ้นรถฟรีกลับที่ City Of Dreams ก็ต้องไปขึ้นรถที่เดิมที่หน้าโรงแรม Sintra เดินออกแล้วมองขึ้นไปทางบ่อนคาสิโน
เดินมาถึงหน้าโรงแรม Sintra มันไม่มีป้ายบอกนะครับ ว่าตรงนี้คือจุดรอรถให้สังเกตุเอาเห็นต่อแถวกันยาว ๆ แล้วมีคนใส่เสื้อสีม่วงให้เดินไปถามว่าตรงนี้ไป City Of Dreams หรือเปล่า เขาจะพยักหน้า เราก็ไปต่อแถวก็รอรถไม่นานประมาณ 15 นาทีก็มา
รถจะพาเราวนไปยังหน้ามาเก๊า ทาวเวอร์ ด้วยนะครับ ถ้าใครจะลงก็ลงได้เพราะจากตรงมาเก๊า ทาวเวอร์ ก็มีรถบัสฟรีของ City Of Dreams เหมือนกัน
พอมาถึงยัง City Of Dreams เงิน MOB ยังเหลืออยู่เลยเอาไปซื้อตั๋วดูห้อง The Bubble ตั้วใบละ 50 MOB รอเวลาเข้าชมอย่างเดียว
ใช้เวลาดูไม่นานหรอกครับประมาณ 20 นาที ก็จบ ข้ามฝั่งกลับมายัง เวเนเชี่ยน เพื่อไปเอากระเป๋าแล้วขึ้นรถบัสไปท่าเรือ
ด้านหน้าทางเข้า เวเนเชี่ยน ไม่รู้เขามีการถ่ายหนังเรื่องอะไรไม่ทราบ เห็นคนจีนยืนหยุดถ่ายรูป
เรามุ่งหน้าเดินไปยัง West Lobby จากทางที่เราเข้าต้องเดินทะลุบ่อนเข้าไปง่ายที่สุดและเร็วที่สุด ระหว่างทางเดินเราเจอกับนี้เลย Optimus Prime เพราะตอนที่ไป เขากำลังโปรโมต Transformers 4 Age of Extinction กันอยู่ที่ฮ่องกง
เดินมาถึง West Lobby ก็เอาใบฝากของยื่นให้เจ้าหน้าที่เขาก็จะเอากระเป๋าออกมาให้ พอดีเราฝากไว้ 6 ใบเขาเข็นรถออกมาแล้วเบลบอย ถามว่าเราจะไปไหน ผมก็บอกว่าจะไปขึ้นรถไปยังท่าเรือ Cotai jet เขาก็บอกว่าตามเข้ามาแล้วเขาก็ลากรถเข็นที่ใส่กระเป๋าเรามายังรถที่ไปท่าเรือไทปา เราไม่ต้องเดินลากกระเป๋าเลยเขาเข็นมาส่ง พวกเราก็เลยเหลือเหรียญ MOB เท่าไหร่รวมกันให้ทริป เบลบอยคนนั้นไป
นั่งรถมาได้ 15 นาทีก็ถึงท่าเรือ ไทปา เฟอรรี่ ซึ่งอยู่ติดสนามบินนานาชาติมาเก๊า ซึ่งตรงนี้จะเป็นเรือกของ Cotai Water Jet
พอมาถึงเราเอาตั๋วเรือซึ่งซื้อมาจาก Web wow-hk มาเปลี่ยนตั๋วจริงอีกที ง่ายมากไม่ต้องทำไรเลย ชี้จอบอกว่าจะไปเรือรอบไหน เขาก็เปลี่ยนตั๋วจริงให้ ตอนเดินเข้ามาด้านในเจ้าหน้าที่เขาจะฉีกตั๋วแล้วแปะสติกเกอร์ที่นั้งเรือให้ เรามาหลายก็ขอเขานั่งติดกัน อย่างในรูปได้ที่นั่ง 42Q
แล้วก็ทำการผ่าน ตม. มาเก๊า ตรงนี้คนน้อยมา แล้วก็มานั่งรอเรียกขึ้นเรือ เขาจะมีป้ายบอกเลขเรือ ซึ่งเราซื้อตั๋วเรือที่นั่งธรรมดาก็นั่งรอตรงนี้ ส่วนตั๋วชั้น 2 ชั้น 1 เขาจะมีบริเวณแยกตรงนั้นจะมี Wifi ให้ใช้ฟรีด้วยนะครับ
พอถึงเวลาบอร์ดขึ้นเลขเรือ เราก็เดินตามเขาไปกันเลยไม่หลงแน่
เรือลำใหญ่สีฟ้า ลำนี้ละครับจะพาเราไปยังเกาะฮ่องกง
ก่อนเดินขึ้นเรือ Check ซักนิดว่าใช่รอบที่เราซื้อตั๋วมาหรือเปล่า เพื่อขึ้นผิดลำ ^^!
ที่นั่งภายในเรือ Cotai Water Jet เก้าอี้ใหญ่กว่าที่นั่ง Airasia อีกนอนหลับสบาย นอนไปอีก 1 ชม. กว่าจะถึงฮ่องกง
คู่มือของเรือ และถุงอาเจียน ในกรณีเมาคลื่นจะอยู่ในเบาะที่นั่งด้านหน้าของเรา
เรือออกตรงเวลามาก บ๊ายบาย มาเก๊า มุ่งหน้าสู่ฮ่องกง
ตื่นกันแต่เช้า บวกเที่ยวกันถึงบ่ายพอขึ้นเรือ เก้าอี้นั่งสบาย อากาศเย็น ทีมงานคุณภาพเลยลงเอยที่การหลับ ฮาาาา
ใช้เวลาเดินทางจากมาเก๊า มายัง ฮ่องกง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. แต่มาถึงฝนตก !! ฟ้ามืดกันเลยทีเดียว
ถึงแย้วท่าเรือเกาะฮ่องกง Hong Kong Macau Ferry ( Sheung Wan ) ก็ทำการผ่าน ตม. แต่ตรงนี้ยังต้องกรอกแบบฟอร์ม ตม. นะครับ แต่ไม่มีประทับตราในเล่มจะได้บัตรแสดงการเข้าประเทศแบบที่มาเก๊า
บังเอิญเพื่อนผู้หญิงติดปัญหาที่ ตม. ประมาณ 20 นาทีกว่า ๆ เลยออกมาช้ากว่าชาวบ้านแต่ก็ดีทางเดินคนไม่เยอะ เดินไปยังรถไฟฟ้ากันเถอะ
ออกมามองไปยังฝั่งตรงข้ามซึ่งจะเห็นตึก Sky 100 ชัดเจน เดียวพรุ่งนี้จะขึ้นไปเยี่ยมเยือน
เดินหาทางไปรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งจริง ๆ มันอยู่ฝั่งตรงข้ามแต่เราเดินเล่นดูเมือง
ไม่ได้หลงนะครับ เพราะตลอดทางเขามีแผนที่บอกว่าตอนนี้เราอยู่ไหน แล้วทางลงรถไฟฟ้าใต้ดินอยู่ไหน
เราเดินเรื่อย ๆ จนมาถึง Central แล้วเดินลงไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน
ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ แต่เราไม่ต้องใช้เพราะเรามีบัตร Octopus มาใช้ ( ยืมจากพี่ที่ทำงานมาได้ครบ 6 ใบเลยไม่ต้องซื้อ ) เราก็นำเจ้าบัตร Octopus ไปเติมเงินที่ตรงสถานีก็ได้ครับ เติมไป 100 เหรียญไว้ซื้อน้ำซื้อขนมกินใน 7-11 ด้วย
แล้วก็มุ่งหน้าลงรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีแดงไปยังที่พักเราซึ่งจองไว้อยู่ย่าน Mong kok รถไฟฟ้าใต้ดินคนก็ไม่เยอะมาก
ใช้เวลาไม่นานก็ถึงสถานี Mong kok จากตรงนี้เราจองโรงแรม Habour Hotel ไว้ ซึ่งเขาบอกเดินไม่ไกลจากสถานีไป 7 นาทีได้
แผนที่จาก Website ของทางโรงแรม ให้เราออกทางออก E1 ขึ้นมาจะเจอห้าง Langham Place ตรงหน้าที่เหลือเดินตามแผนที่เลยครับไม่หลงแน่นอน
ถึงแล้วโรงแรม Habour Hotel หาไม่ยากครับป้ายใหญ่มากถ้าเดินเข้าซอยไปก็จะเห็น
ตามสไตล์ห้องนอนที่ฮ่องกง ห้องจะไม่ใหญ่มากแต่ราคาเกือบจะ 3,000 บาทต่อคืน
ภายในห้องก็มีของใช้ให้ครบครัน มี Wifi ให้ใช้งานด้วยความแรงก็อยู่ในระดับ OK ทีเดียวเสียอย่างเดียวห้องอาบน้ำเล็กไปหน่อย
เก็บกระเป๋าเสร็จอะไรเสร็จก็ได้เวลาเดินออกไปหาของกินกันก่อน เพราะทุ่มกว่าแล้วยังไม่ได้กินไรเลย ออกมาจากทางโรงแรมเดินไปทางถนน Nathan
แล้วเดินท่าไหนไม่รู้เจอร้านขายติ๋มซำเห็นหน้าร้านหน้าตาดี เลยเข้าไปคนไม่เยอะเท่าไหร่เพราะดึกแล้ว แต่ลืมถ่ายหน้าร้านมาเอาเป็นว่าร้านอยู่ติดกับร้านขอนแก่นนี้ละกัน ( ไปฮ่องกง แต่เจอร้านขอนแก่นที่นั้น ฮาาา )
ด้วยความหิวสั่งมาหลายอย่าง แต่ไม่ได้ถ่ายไว้กินกันเรียบอย่างรวดเร็ว
เข่งนึงมีซาลาเปา 3 ลูกแต่ถ่ายไม่ได้โดนฉกไปแล้วลูกนึง ^^!
กินเสร็จก็ออกเดินลุยต่อย่าน Mong kok นั้นละครับแยกย้ายกันไปเดิน เพราะกลับไปโรงแรมกันถูกแล้วถึงจะดึก 3 ทุ่มกว่าย่านนี้ก็ยังเต็มไปด้วยผู้คน เดินจนมาถึงตึก CTMA ว่าจะไปซื้อโมเดลของค่าย Hot Toys ร้านด้านบนแต่คงดึกมาถึงร้านปิดแล้ว ไม่เป็นไรพรุ่งนี้มาใหม่
เดินจนพอมใจก็กลับที่พักไปนอนเอาแรงพรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้าต่อ จบวันแรกของการเดินทางที่ภาพถนน Nathan Road ไว้แต่เพียงเท่านี้ในตอนแรก
Final ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านเรื่องราวของผมในตอนแรกในการเดินทางไปยังมาเก๊า , ฮ่องกง และจีน นะครับ ผิดถูกยังไงก็ขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วยแล้วกัน ชอบเรื่องราวการเดินทางของผมคิดว่ามีประโยชน์กับการเดินทางของท่านก็ฝากกด Like กด Share หรือบอกต่อ ๆ กันไป หวังว่าเรื่องราวการเดินทางของทางเราจะมีประโยชน์นะครับ
ติดตามตอนเรื่องราวการเดินทางวันที่ 2 ได้ที่นี้ : วันที่สองของการเดินทาง Hong Kong To Shenzhen ( ฮ่องกง ถึง เซินเจิ้น )
Travel China 2014
- Travel China 2014 ::: วันแรกของการเดินทาง Macau To Hong Kong ( มาเก๊า ถึง ฮ่องกง ) :::
- Travel China 2014 ::: วันที่สองของการเดินทาง Hong Kong To Shenzhen ( ฮ่องกง ถึง เซินเจิ้น ) :::
- Travel China 2014 ::: วันที่สามของการเดินทาง Shenzhen To Guangzhou ( เซินเจิ้น ถึง กวางโจว ) :::
- Travel China 2014 ::: วันสุดท้ายของการเดินทางยังอยู่ที่นคร Guangzhou ( กวางโจว ) :::